ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับทำ SEOอ่านบทความที่มีสาระประโยชน์ได้จากที่นี่ สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำ SEO จากเว็บของเรา วันนี้ผมขอแนะนำเกี่ยวกับการโปรโมทเว็บให้ติดอันดับ Google หรือที่เรียกกันว่า SEO ซึ่งย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimize นั่นเองครับ หลายคนสงสัยว่าวิธีการทำให้เว็บติดอันดับ Google นั้นทำอย่างไร มีความซับซ้อนและยากมากน้อยเพียงใด ผมขอบอกกับผู้อ่านทุกคนครับว่า การทำ SEO นั้นไม่ได้ยากและไม่ได้ง่าย ขึ้นอยู่กับว่า เราให้ความสำคัญของคุณภาพมากน้อยเพียงใด และทำตามกฎและนโยบายของ Google หรือไม่ ปัจจุบันระบบค้นหาของกูเกิ้ลหรือที่เรียกว่า Google Algorithm ได้พัฒนาไปอย่างมาก ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการค้นหาข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น ทาง google ต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน Search Engine ของตน ซึ่งเราจะสังเกตว่า Google Search สามารถค้นหาและนำเว็บที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงผลตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการ การที่เราจะทำเว็บให้ติดหน้าแรก google นั้น สิ่งแรกที่เราควรคำนึงมากที่สุดคือ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านให้มากที่สุด การสร้างเนื้อหาคุณภาพ Quality Content จะทำให้เว็บของคุณเป็นที่สนใจของกูเกิ้ล ยิ่งถ้าหากคุณเขียนบทความคุณภาพและมีเอกลักษณ์ Unique Content ที่แตกต่างจากเว็บทั่วไป เว็บของคุณก็สามารถทำอันดับได้ไม่ยากครับ
การทำ SEOให้เว็บติดอันดับ google นั้นสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ
1. การปรับ SEO On Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและสนับสนุนการทำ SEO โดยเน้นที่การปรับแต่งภายในของเว็บที่จะทำอันดับบน Google ซึ่งการปรับเอสอีโอออนเพจมีความสำคัญ เพราะจะเป็นการบอกให้ Search Engine เข้าใจว่าเรากำลังทำเว็บเกี่ยวกับอะไร และเว็บของเรานั้นอยู่ในหมวดใดของคำค้นหา ไม่เพียงแต่การปรับ On Page จะเป็นการทำให้เว็บค้นหารู้จักเว็บของเราว่าเป็นเว็บเกี่ยวกับอะไรแล้ว ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เว็บติดอันดับ Google เพราะหากเราเขียนเนื้อหาที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน เมื่อมีคนเข้ามาเว็บเราและเห็นว่าเป็นเว็บที่มีบทความคุณภาพก็จะส่งต่อหรือนำไปเผยแพร่ ทำให้เว็บของเราเป็นที่สนใจของผู้ที่ต้องการค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เรานำเสนอ ซึ่ง เราสามารถปรับ SEO On Page ได้ดังนี้
1.1 Title Tag ไตเติ้ลของเว็บไซต์นั้นมีความสำคัญและเป็นตัวที่จะบอกให้ Search Engine รับรู้ว่าเว็บของเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรและเน้นเรื่องไหนเป็นพิเศษ โดย Google จะให้ความลำดับความสำคัญของ Title จากซ้ายไปขวา หากต้องการเน้นคำไหนก็สามารถเขียนคำนั้นอยู่ตอนต้นของประโยคในไตเติ้ลแท็ก ทั้งนี้ไม่ควรกำหนดให้ไตเติ้ลสั้นหรือยาวมากจนเกินไป และไม่ควรใช้คำซ้ำๆ กัน
1.2 Meta Description Tag ในการทำ SEO สิ่งที่จะทำให้เว็บค้นหารู้จักและเข้าใจว่าเว็บเรานั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร นอกจาก Title แล้ว ยังมีอีกแท็กหนึ่งที่เป็นการอธิบายภาพรวมของเว็บว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร นั่นคือ Meta Description นั่นเองครับ ในการทำให้เว็บรองรับ SEO เราควรใส่คำอธิบายเว็บลงไปในส่วนนี้ ทั้งนี้จะเป็นการทำให้ Search Engine นำเว็บเราไปจัดลำอันดับอย่างถูกต้องตามกลุ่มคำค้นที่สอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บ
1.3 Meta Keywords Tag หากเราต้องการให้ Google Search นำเว็บของเราไปแสดงในหมวดใด สามารถกำหนดคีย์เวิร์ดหลักของเว็บได้จากแท็กคำสั่งนี้ ซึ่งคุณสามารถเพิ่ม Keyword ได้มากกว่า 1 คำ โดยมีเครื่องหมาย , (คอมม่า) คั่นกลางระหว่างคำหลัก หรือคีย์เวิร์ดที่ต้องการทำอันดับ เทคนิคการเพิ่ม Keyword คือ ไม่ควรใส่มากเกินไป และควรเพิ่มคำที่มีอยู่ในเนื้อหาของเว็บ
1.4 H1 H2 H3... Tag หากค้นต้องการให้เว็บเป็นที่สนใจของ Google มากขึ้น สามารถใช้แท็กคำสั่ง H1 H2 H3 ในการกำหนดขนาดของหัวข้อหรือชื่อเรื่องของเนื้อหา และควรมี Keyword หลักของเว็บรวมอยู่ในชื่อเรื่องด้วย
1.5 Strong Tag การใช้คำสั่งตัวหนา (Strong) ให้กับข้อความ หรือ Keywords ที่เราต้องการเน้นนั้น มีความสำคัญต่อการทำอันดับอยู่ไม่น้อยครับ ทั้งนี้เราสามารถใช้คำสั่งขีดเส้นใต้ ตัวเอียง หรือการเพิ่มสีให้กับตัวอักษรในคำหลักของเว็บ เป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่ออันดับและทำให้อันดับของเว็บดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ควรใช้มากเกินไป ควรทำอย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ
1.6 Text Link ในหน้าหลักของเว็บที่ต้องการโปรโมทเว็บให้ติดอันดับ Google นั้น ควรสร้าง Anchor Text Link คีย์ที่ต้องการทำอันดับเข้าสู่หน้าหลัก ซึ่งในหน้าหลักนั้นหากมีลิงค์ไหนที่มีการเชื่อมโยงไปยังเว็บข้างนอกควรตั้งค่าให้เป็นลิงค์เชื่อมโยงแบบ Nofollow เพื่อไม่ให้สูญเสียค่า Page Rank ไปให้กับเว็บอื่น ส่วนการเชื่อมโยงลิงค์ภายในเว็บควรตั้งค่าเป็นลิงค์แบบ Dofollow ซึ่งโดยปกติแล้วหากเราไม่ได้กำหนดค่าอะไรให้กับลิงค์ Search Engine จะเข้าใจว่าเป็น Dofollow อัตโนมัติ และควรเพิ่มค่า title เพื่ออธิบาย Link ที่เชื่อมโยง
1.7 Image การสร้างเว็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่เนื้อหา ข้อความ เพียงอย่างเดียว การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้อ่านเนื้อหามากยิ่งขึ้น ซึ่ง การเพิ่มรูปภาพให้กับเว็บเพจนั้น ควรใช้คำสั่ง alt เพื่ออธิบายให้เสิร์ทเอนจิ้นเข้าใจว่ารูปภาพนั้นเกี่ยวกับอะไรและมีความสอดคล้องกับบทความในเว็บอย่างไร
1.8 Keyword In Content อีกวิธีหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการเขียนบทความและให้เว็บค้นหาเข้าใจว่าบทความของเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องไหนเป็นพิเศษ คือ การใส่ keyword ที่บริเวณตำแหน่งของเนื้อหาในส่วนแรก (First Content) ให้ใส่ คีย์เวิร์ด ไว้ในตำแหน่ง 20 - 30 คำแรกโดยประมาณ ให้ชัดเจน หรืออาจจะใช้ตัวอักษรลักษณะเอียงหรือขีดเส้นใต้ก็ได้ การใส่ keyword ที่บริเวณ เนื้อหาในส่วนสุดท้ายของบทความ (The last content) เพื่อเน้นความสำคัญหรือใช้ในการสรุปเนื้อหา อาจจะใช้เป็นลักษณะขีดเส้นใต้ ตัวเอียงหรือหนา (แนะนำให้ใช้ tag แบบ < b>คีย์เวิร์ด< /b> หรือแบบ < strong>คีย์เวิร์ด ก็ได้มีค่าเท่ากัน เนื่องจาก Search Engine มีการให้คะแนนการจัดอันดับมากกว่า 200 ปัจจัย) ก็ได้ครับตามแต่จะสะดวก
1.9 Keyword In File Name ใช้วิธีเพิ่ม keyword ในการตั้งชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ (Folder name, File name) วิธีนี้ได้ผลเป็นที่ดีมากครับ เพราะเป็น Search Engine จะให้น้ำหนักกับชื่อไฟล์หรือโฟล์เดอร์ หรือที่เรียกว่า Keyword In File Name กรณีที่เขียนเว็บเองไม่ได้ใช้ CMS สำเร็จรูปอย่าง Wordpress สามารถที่จะกำหนดค่า .htaccess ในการแสดงชื่อไฟล์ภาษาไทย ตามด้วยนามสกุล .php หรือ html แล้วแต่จะสะดวก แนะนำใช้แบบ .php เพราะ .html มีจุดด้อยในการพัฒนาเว็บ ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถ include คำสั่งจากที่อื่นมาได้ ส่วนกรณีที่ใช้เว็บสำเร็จรูปก็อาจใช้เครื่องหมาย - ในการแยกคำที่มีหลายพยางค์ เป็นต้น
1.9 Keyword In Domain หากท่านสามารถลงทะเบียนใช้งานโดเมนเนมได้ตรงกับ Keyword เป็นเรื่องที่ดีมาก หากชื่อไม่ว่างแล้วท่านก็สามารถที่จะใช้วิธีนี้ได้เพียงแต่อาจเอาคำอื่นมารวมอยู่กับชื่อที่ตรงคีย์เวิร์ด เรื่องของคีย์เวิร์ดในโดเมนนั้นสามารถใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่ในปัจจุบันจะต้องทำให้คุณภาพมากยิ่งขึ้นครับ
2. การปรับ SEO Off Page
เป็นการปรับให้เว็บรองรับและสนับสนุนการทำ SEO โดยเน้นที่การปรับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก กล่าวคือ เป็นการเขียนบทความคุณภาพที่น่าสนใจและเป็นมิตรกับผู้อ่านและทำการเชื่อมโยงลิงค์ไปยังเว็บหลัก หรือเรียกว่า การสร้าง Back Link ซึ่งการปรับเอสอีโอออฟเพจที่ถูกต้องนั้น ควรให้ความสำคัญของคุณภาพของบทความและความเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านเป็นหลักครับ เนื่องจากหากเขียนบทความที่น่าสนใจก็จะมีผู้ที่เข้ามาอ่านนำหน้าเว็บดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ ซึ่งเป็นการสร้าง Back Link ที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ การสร้าง Network ส่วนตัวก็เป็นการทำ SEO Off Page อีกแบบหนึ่งเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่ทำ SEO มีการเขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพและมีประโยชน์มากน้อยเพียงใด หากเขียนบทความที่ดีและเป็นมิตรกับผู้อ่านแน่นอนว่าหน้าเว็บเหล่านั้นก็จะขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหา Google และส่งผลให้เว็บหลักมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วยครับ สรุป คือ การสร้างลิงค์เชื่อมโยงจากภายนอกเข้าสู่หน้าเว็บหลักที่ต้องการทำอันดับนั่นเองครับ
2.1 Link Building การสร้างลิงค์ที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาตินั้น ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของบทความเป็นอันแรก หากเนื้อหาไม่ได้คุณภาพและมีการเชื่อมโยง Anchor Text Link ไปหาเว็บหลักก็ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจทำให้อันดับแย่ลงกว่าเดิม การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและมีเอกลักษณ์จะช่วยทำให้ลิงค์เหล่านั้นสามารถดันอันดับเว็บหลักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 Keyword Diversify การทำ SEO ปัจจุบันแตกต่างจากยุคที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง Google เน้นคุณภาพมากขึ้น การโปรโมทเว็บต้องให้ความสำคัญและรับผิดชอบต่อผู้ค้นหาข้อมูลผ่านทาง Search Engine มากขึ้น เนื้อหาที่นำไปแสดงต่อผู้อ่านจึงควรเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์และเป็นที่ต้องการของผู้ค้นหาอย่างแท้จริง การที่มุ่งหวังผลแต่เพียงอันดับอย่างเดียว โดยการใช้ Keyword ซ้ำๆ ในการทำอันดับนั้นไม่เป็นผลดีต่อการโปรโมทเว็บในยุคที่อัลกอลิทึมเน้นคุณภาพ หากต้องการที่จะทำอันดับบน Google Search คุณควรเปลี่ยน Keyword Link ตามความเหมาะสมของเนื้อหาเพื่อเชื่อมโยงไปหาเว็บหลักอย่างสัมพันธ์กัน การสร้างลิงค์คุณภาพจึงควรมีการปรับ Keyword Diversify อย่างเหมาะสมและมีคุณภาพตลอดจนสามารถเชื่อมโยงเนื้อหาที่ผู้ค้นหาข้อมูลต้องการอย่างสร้างสรรค์
2.3 Page Rank ในการทำ SEOในยุคนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าค่า PR ไม่มีความสำคัญ อันที่จริงแล้ว Google ใช้ปัจจัยมากมายในการจัดอันดับและค่า PR เป็นหนึ่งในปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่ออันดับของเว็บไซต์ ในขณะที่เว็บไซต์ปริมาณของ Back Link และคุณภาพของเนื้อหาอยู่ในระดับเดียวกัน เว็บที่มีค่า Page Rank สูงกว่าจะมีอันดับที่ดีกว่า ทั้งนี้ค่าดังกล่าวนี้จะเป็นการระบุให้เข้าใจว่าเว็บนั้นมีคุณภาพมากน้อยเท่าใด ซึ่งมีค่าตั้งแต่ 0 - 10 การจะทำให้เว็บของเรามีค่า Page Rank ที่สูงขึ้นนั้น เราสามารถไปเขียนบทความที่น่าสนใจในเว็บที่มีค่า PR สูงๆ และทำสร้าง Link กลับไปยังเว็บหลัก
2.4 Social Network แนวทางการโปรโมทเว็บเพื่อทำอันดับบน Google อีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่ออันดับอย่างมาก คือ Link จากเว็บโซเชียลเน็ตเวิร์ค ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google Plus, Twitter และ Youtube เป็นส่วนสำคัญในการทำอันดับอย่างมาก การแชร์บทความคุณภาพผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คและการสร้างวีดีโอเผยแพร่บน Youtube เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้อันดับเว็บของคุณดียิ่งขึ้น
สรุปการทำ SEO มี 2 แบบ คือการปรับให้เว็บสนับสนุน Search Engine ด้วยการปรับ SEO On Page และการปรับให้เว็บรองรับเสิร์ทเอนจิ้นด้วยการปรับ SEO Off Page ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือการเน้นคุณภาพของเนื้อหาและปฏิบัติตามกฎและโนโยบายของ Googleหากท่านใดมีความต้องการที่จะศึกษาทำ SEOเนื้อหาที่คัดกรองแล้วhttp://www.seo4toprank.comที่สุดของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอ่านแล้วได้ความรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น